โรคซิฟิลิสโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่ไม่ควรมองข้าม

ในปัจจุบันนี้การมีเพศสัมพันธ์นั้นถือว่าเป็นอะไรที่ค่อนข้างง่ายเพราะในโลกปัจจุบันวัฒนธรรมและอย่างนั้นหายไปทั้งประเพณีการหวงเนื้อหวงตัวของผู้หญิงก็เริ่มหดหายไป ในปัจจุบันนั้นการมีเพศสัมพันธ์การเย็ดกันนั้นถือว่าเด็กอายุยังน้อยก็อยากมีอยากลองกันแล้วหรือจะเป็นผู้ชายที่ชอบซื้อบริการเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าการมีเพศสัมพันธ์กันระหว่างชายหญิงนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างที่จะง่ายแต่หลายๆคนนั้นอาจจะป้องกันตัวอย่างดีบางคนนั้นอาจจะตรวจโรคทุกๆเดือนบางท่านนั้นอาจจะสวมถุงยางอนามัยก่อนที่จะทำภารกิจไม่ว่าจะเป็นคู่รักที่ยังไม่ได้แต่งงานหรือการซื้อบริการซึ่งเหล่านี้นั้นเป็นวิธีที่ถูกต้องแต่ยังมีอีกหลายคนนั้นปล่อยปละละเลยซึ่งพฤติกรรมปล่อยปละละเลยนี้จะเป็นสาเหตุหลักๆของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ซึ่งวันนี้หัวข้อที่เราจะนำมาเสนอในสิ่งที่เกี่ยวกับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์นั่นก็คือโรคซิฟิลิส ซึ่งโรคนี้นั้นส่วนใหญ่จะติดต่อกันทางเพศสัมพันธ์และละเอียดจะเป็นอย่างไรเรามาดูกัน
โรคซิฟิลิสนั้นเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่จะส่งผลให้เกิดแผลหรือผื่นบริเวณต่างๆซึ่งถ้าเกิดผู้เป็นไม่ได้รับการรักษาอาจทำให้อันตรายร้ายแรงหรือเกิดภาวะแทรกซ้อนได้สาเหตุหลักหลักนั้นเกิดจากแบคทีเรียที่มีชื่อว่า ทริปโปนีมา พัลลิดุม (Treponema Pallidum)ซึ่งจะเกิดกับกรณีที่ถูกแผลของผู้ป่วยในระหว่างการมีเพศสัมพันธ์และยังรวมไปถึงการใช้เข็มฉีดยาอันเดียวกัน การติดต่อจากแม่สู่ลูก และในช่วงระยะ 1-2ของโรคนั้นจะแพร่กระจายได้ง่ายมากก็คือการแพร่กระจายผ่านการใช้ช้อนส้อมเดียวกันการใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกันยังรวมไปถึงการเข้าห้องน้ำห้องเดียวกัน
อาการของโรค
อาการของโรคซิฟิลิสเราจะมาพูดให้เข้าใจกันง่ายๆก็คือ
ระยะที่ 1จะเกิดแผลบริเวณที่ได้รับเชื้อซึ่งจะเป็นลักษณะแผลริมแข็ง ส่วนใหญ่จะขึ้นบริเวณอวัยวะเพศ ริมฝีปากซึ่งในระยะนี้อาจจะไปตรวจพบได้ภายใน 9-10 วันโดยส่วนใหญ่มักจะไม่มีอาการเจ็บปวดในระยะนี้
ระยะที่ 2ผู้ป่วยนั้นจะเกิดผื่นหรือหูดบริเวณฝ่ามือฝ่าเท้า อวัยวะเพศ ริมฝีปาก หรือที่อื่นๆ ผู้ป่วยนั้นจะมีไข้สูงผมร่วง น้ำหนักลด ซึ่งในระยะนี้อาการต่างๆก็สามารถหายไปได้แม้จะไม่ได้รับการรักษา
ระยะที่ 3 นั้นถ้าผู้ป่วยไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องถูกวิธีอาจจะมีอาการแทรกซ้อนเช่นการเกิดโรคหัวใจ การเป็นโรคหัวใจ หูหนวก อัมพฤกษ์ อัมพาต
แนวทางการป้องกันโรคซิฟิลิส
อย่างแรกคือคู่สามีภรรยาควรจับมือกันไปตรวจโรคต่างๆก่อนที่จะแต่งงานหรือก่อนที่จะมีบุตร
ต่อมาคือการไม่มีเพศสัมพันธ์กับคนแปลกหน้าและการไม่ซื้อบริการและไม่ควรมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร
ต่อมาก็คือการสวมถุงยางอนามัยทุกครั้งก่อนที่จะมีเพศสัมพันธ์รวมไปถึงการไม่เปลี่ยนคู่นอนบ่อยๆ
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์นั้นจะไม่เกิดถ้าเรารู้จักที่จะดูแลตัวเองเป็นประจำและหากสังเกตตัวเองได้ว่ามีอาการข้างต้นควรปรึกษาและพบแพทย์ให้ไวที่สุดเพื่อที่จะรับการรักษาแบบถูกวิธี